ยินดีต้อนรับสู่ ดูไบ
เมืองที่เป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์. เมืองดูไบถือได้ว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งบนโลก และมีอัตราการเจริญเติบโตของเมืองสูงมาก คุณสามารถสัมผัสถึงสิ่งน่าตื่นตาตื่นใจทั้งสถานที่, กิจกรรมต่างๆ และ งานเทศกาล. รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวที่ ดูไบ คุณจะเพลิดเพลินกับการค้นหาและสำรวจ ดูไบ. สำหรับผู้ที่เพียงแวะผ่านมาเที่ยวยามค่ำคืนที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, คุณจะพบกับการผสมผสานอย่างลงตัวของวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมกับความทันสมัยและแสงสียามค่ำคืนที่ ดูไบ. ถึงแม้ว่าดูไบจะมีพิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์เพียงไม่กี่แห่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าที่นี่ไม่มรดกทางวัฒนธรรมเลยแม้แต่น้อย ไม่กี่ปีที่ผ่านมาพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ของเมืองได้รับการบูรณะเพื่อรักษาร่องรอยจากอดีตที่รุ่งเรืองของดูไบพร้อมๆ กับเสนอความทันสมัยในปัจจุบัน
ทำไมต้อง “ดูไบ”
ในช่วงทศวรรษที่ 1820 ดูไบ ได้ถูกกกล่าวถึงในชื่อ อัลวาเซิล ตามนักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ ต่อมา คำว่า ดูไบ ก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่ บ้างก็ว่ามาจากภาษาเปอร์เซีย แต่บ้างก็เชื่อว่า มาจากภาษาอาหรับ ตามที่ เฟเดล แฮนด์ฮัล นักวิจัยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า คำว่า ดูไบ (Dubai) น่าจะมาจากคำว่า Daba (ดาบา) (ดัดแปลงมาจากคำว่า Yadub) ซึ่งมีความหมายว่า “การคืบคลาน อาจมาจากการไหลของน้ำในคลองดูไบ (Dubai Creek) ที่อยู่ภายในแผ่นดิน
ดูไบ (อาหรับ: دبيّ, Dubayy; อังกฤษ: Dubai
ที่ตั้ง
เมืองดูไบ ตั้งอยู่บนชายฝั่ง อ่าวเปอร์เซีย ทางตอนเหนือของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 16 เมตร รัฐดูไบติดต่อกับรัฐอาบูดาบีทางทิศใต้ ติดกับรัฐชาร์จาห์ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และประเทศโอมานทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีแผ่นดินส่วนแยกติดกับเมืองฮัตตา ซึ่งมีประเทศโอมานและรัฐอื่นๆ ได้แก่ รัฐอัจมาน (ทิศตะวันตก) รัฐราสอัลไคมาห์ (ทิศเหนือ) และอ่าวเปอร์เซียทางทิศตะวันตก และมีพื้นที่ครอบคลุม 4,114 ตารางกิโลเมตร (1,588 ตารางไมล์)
ภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศเป็นแบบทะเลทราย ฤดูร้อน (พฤษภาคม–กันยายน) อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 32-48 องศาเซลเซียส ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-มีนาคม) อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 15-30 องศาเซลเซียส
การเมืองการปกครอง
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีโครงสร้างเป็นสหพันธรัฐ ประกอบด้วยรัฐ 7 รัฐ ได้แก่ อาบูดาบี (Abu Dhabi) ดูไบ (Dubai) ชาร์จาห์ (Sharjah) อัจมาน (Ajman) ราสอัลไคมาห์ (Ras al-Khaimah) ฟูไจราห์ (Fujairah) และอุมม์ อัล ไคเวน (Umm al-Quwain) มีการปกครองโดยประธานาธิบดีซึ่งได้กำหนดให้เจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบีดำรงตำแหน่ง และให้เจ้าผู้ครองรัฐดูไบเป็นรองประธานาธิบดี การปกครองมีลักษณะเป็นราชาธิปไตย
เชื้อชาติ : ชาวเอมิเรตส์ 19%, ชาติอาหรับและอิหร่าน 23%, เอเชียใต้ 50%, ชาวตะวันตกและชาวเอเชียตะวันออก 8%
ศาสนา : เป็นมุสลิม 96% (ลัทธิชีอะห์ 16%) โดยมีชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาคริสต์ ฮินดูและอื่นๆ อีก 4%
เศรษฐกิจประเทศดูไบ
ดูไบเริ่มเป็นที่สนใจของประชาคมโลกมากขึ้น น่าแปลกใจที่พบว่าเมืองนี้ก้าวขึ้นมาเป็นเมืองที่ใครๆ ก็รู้จักได้รวดเร็วอย่างมาก เศรษฐกิจของดูไบ เป็นสถานที่ซึ่งนักธุรกิจชั้นนำของโลกเลือกให้เมืองแห่งนี้เป็นสำนักงานใหญ่ของภูมิภาค หรือสำนักงานใหญ่ของโลก และเมื่ออดีตประเทศดูไบมีเฉพาะน้ำมันเพียงอย่างเดียว ปัจจุบัน ดูไบมีรายได้รัฐที่มาจากน้ำมันโดยตรงเพียงประมาณ 4% ของ GDP ทุกวันนี้ แขกผู้มาเยือนเมืองนี้จะพบเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจดูไบอย่างชัดเจน เพราะประเทศดูไบ มีการใช้จ่ายเงินมหาศาลกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ถนน ท่าอากาศยาน ที่อยู่อาศัย โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ งบการลงทุนนี้ประมาณการว่าสูงถึง 21 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในอีกห้าปีข้างหน้าในประเทศกลุ่ม GCC และส่วนใหญ่มีการลงทุนมากขึ้นในดูไบ
ประเทศดูไบในปัจจุบันนั้นพึ่งพาการค้าเป็นส่วนใหญ่ วิสัยทัศน์ของรัฐบาลสำหรับปี 2015 ซึ่งกำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ดูไบ เน้นความหลากหลายทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ ความหลากหลายทางเศรษฐกิจมีรากฐานมาจากความรู้และบริการที่เพิ่มมากขึ้นในดูไบ ดูไบจะรักษาตำแหน่งการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การเงินและธุรกิจ และผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์
วัตถุประสงค์ที่สำคัญประกอบด้วย การรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ 11% ต่อปี เพื่อดึง GDP ให้เพิ่มขึ้นที่ 1.08 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2015 และเพิ่ม GDP ต่อหัวเป็น 44,000 เหรียญสหรัฐ โดยเน้นการท่องเที่ยว การขนส่ง การค้า การก่อสร้าง และบริการด้านการเงินต่างๆ สิ่งที่น่าสนใจคือ ตลอด6เดือนที่ผ่านมา กลุ่มอิทธิพลทางการเงิน เช่น ธนาคารรายใหญ่ต่างย้ายมาที่ดูไบ แม้จะเกิดวิกฤติการเงินทั่วโลก แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่า แผนของรัฐบาลได้ผลดี
ที่มา : https://bit.ly/2Ne6A7W