“แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด” ที่ได้ผ่านมาทางอีสานเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู,เลย,หนองคาย โอบล้อมด้วยภูเขาและธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ เมื่อมองลงมาข้างล่างเห็นวิวทิวทัศน์ รวมทั้งมองเห็นวิวทุ่งนาเขียวขจีสุดสายตาและสถานที่ท่องเที่ยวตำนานความเชื่อพญานาคอันศักดิ์สิทธิ์  อีกทั้งยังมีความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ ความอัศจรรย์ของเกาะแก่งกลางน้ำโขง เป็น 3 จังหวัดที่สร้างความสุขผ่อนคลาย อิ่มบุญ อิ่มใจ เมื่อได้มาเยือน

จ.หนองบัวลำภู

1. ถ้ำเอราวัณ

     หรือ ถ้ำช้าง ตั้งอยู่ที่ ต.ผาอินทร์แปลง อ.เอราวัณ จ.หนองบัวลำภู และ จ.เลย จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของทั้งสองจังหวัด บรรยากาศ ด้านหน้าก่อนขึ้นไปบริเวณปากถ้ำ เราต้องเดินขึ้นบันไดสู่ปากถ้ำกว่า 621 ขั้น ซึ่งเรียกกันว่า ลัดเลาะเลี้ยวไปตามไหล่เขาพร้อมศาลาพักชมวิวทั้งหมด 3 แห่งตลอดเส้นทาง ใช้เวลาเดินขึ้นไปประมาณครึ่งชั่วโมงกว่า แล้วแต่ความรวดเร็วของแต่ละคน  บริเวณปากถ้ำเอราวัณมีขนาดกว้างใหญ่ มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชาวบ้านเรียกว่า พระพุทธชัยศรีมหามุนีศรีโลกนาถ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวหนองบัวลำภูประดิษฐานอยู่ มองเห็นได้แต่ไกล ของชาวหนองบัวลำภูประดิษฐานอยู่

     ภายในถ้ำ ช่วงแรกมีหินในถ้ำลักษณะคล้ายอ่างน้ำน้อยใหญ่อยู่ตามผนังด้านข้าง ช่วงกลางถ้ำเป็นห้องโถงกว้าง มีหินงอกหินย้อยและเสาหินขนาดใหญ่ รวมถึงหินก้อนใหญ่รูปคล้ายช้างหมอบอยู่บนพื้น อันเป็นที่มาของชื่อถ้ำ ต่อจากนั้นก็เป็นห้องที่มีหินงอกก้อนใหญ่คล้ายปะการังซึ่งยังมีน้ำหยดลงมาอยู่ เมื่อเดินทะลุไปออกที่โพรงถ้ำอีกด้านจะพบปากถ้ำกว้างอยู่ข้างบน เดินขึ้นบันไดไปออกบริเวณปากถ้ำจะเป็นจุดชมทิวทัศน์มองเห็นที่ราบซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ของชาวบ้านแถวนั่น

ตำนานความเชื่อ

     ณ เมืองหนึ่ง ชื่อเมืองนครศรีมีลูกสาว 1 คน ชื่อนางสีดา วันหนึ่งนางสีดาหลงเข้าป่าแล้วกระหายน้ำ จึงเดินไปพบน้ำในรอยเท้าช้างกับรอยเท้าวัว  พอกลับเมืองมาน้องสีดาได้ตั้งท้องลูกสาว2คน  ชื่อนางผมหอมและนางลุน  นางผมหอมและนางลุนถูกเพื่อนล้อว่าไม่มีพ่อ จึงได้พากันออกมาตามหาพ่อแล้วไปเจอพญาช้างเอราวัณ พญาช้างจึงได้พิสูจน์ว่าใครเป็นลูกของตนจึงได้ให้ทั้ง2 คนปีนขึ้นหลัง ถ้าใครปีนได้คนนั้นเป็นลูกพญาช้าง นางผมหอมปีนได้ แต่นางลุนปีนไม่ได้เพราะนางลุนเป็นลูกวัวจึงถูกพญาช้างเหยียบตาย ต่อมาพญาช้างได้พานางผมหอมไปอยู่ด้วยนางผมหอมได้ออกไปอาบน้ำที่ลำธารแล้วตัดผมใส่ผะอบแล้วอธิฐานว่า หากใครเป็นเนื้อคู่ของนางขอให้เก็บผะอบได้ หากใครไม่ใช่เนื้อคู่จะเก็บผะอบไม่ได้  ต่อมาท้าววรจิตรได้ไปอาบน้ำในลำธารแล้วเก็บผะอบได้ ท้าววรจิตรจึงเปิดดูก็เห็นเป็นเส้นผมที่มีกลิ่นหอม จึงได้ออกตามหาเจ้าของผะอบนั้น แล้วก็ตามหาจนเจอนางผมหอมทั้ง2ตกลงจะหนีไปด้วยกันเพร่ะนางผมหอมกลัวพญาช้างมาเจอแล้วจะฆ่าท้าววรจิตร  จึงได้หนีไป  พอพญาช้างกลับมาก็ตามหานางผมหอมไม่เจอ เลยสาบให้ทุกอย่างกลายเป็นหิน แล้วตนก็ไปกลั้นใจตายกลางถ้ำ พอนางผมหอมรู้ข่าวว่าพ่อตายจึงมากลั้นใจตายกลางถ้ำตามพ่อ จึงกลายเป็นถ้ำเอราวัณในปัจจุบัน

2. ถ้ำผาเจาะ 

     ตั้งอยู่ที่ หมู่ 2 บ้านผาเจาะ ต.เทพคีรี อ.นาวง จ.หนองบัวลำภู เป็นถ้ำที่มีลักษณะเหมือนถูกเจาะหน้าผา แต่จริงๆ แล้วเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีความงดงามเป็นอย่างมาก เมื่อขึ้นไปด้านบนแล้วจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์บริเวณบ้านผาเจาะและอำเภอนาวังได้ทั้งหมด แถมบนยอดถ้ำผาเจาะยังมีองค์พระองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ เพื่อให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชา นอกจากภายนอกถ้ำจะสวยงามแล้ว ภายในถ้ำก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน แต่มีความลำบากในการเข้าไปเที่ยวชม เนื่องจากภายในถ้ำเป็นหุบเหว

     เล่ากันว่าในสมัยที่สร้างพระธาตุพนม มียักษ์กุมภัณฑ์ตนหนึ่งเตรียมสิ่งของใส่ตะกร้าไว้มากมาย  เพื่อจะมาบรรจุในพระธาตุ  ระหว่างทางได้พบกับยักษ์อีกตนที่ผาเจาะแห่งนี้  ยักษ์นั้นแจ้งว่า พระธาตุพนมสร้างเสร็จแล้ว ยักษ์กุมภัณฑ์เสียใจมาก จึงทิ้งตะกร้าไว้ที่นี่ กลายเป็นผาเจาะ

3. วัดถ้ำกลองเพล

     ตั้งอยู่เชิงเขาภูพานในเขต อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดหนองบัวลำภู สันนิษฐานว่าเป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นในสมัยขอมเข้ามาครอบครองแผ่นดิน แต่ไม่มีหลักฐานว่าสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. ใด ต่อมาเป็นวัดร้าง ไม่มีพระภิกษุสามเณรจำพรรษา จนกระทั่งเมื่อ พ.ศ.2501 พระอาจารย์หลวงปู่ขาว อนาลโย พระวิปัสสนากรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตะเถระ ได้อาศัยวัดแห่งนี้เป็นสถานที่วิปัสสนากรรมฐานภายในบริเวณวัดบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ มีเนื้อที่กว้างขวาง   ปกคลุมไปด้วยแมกไม้ ป่าเขียว และสวนหินธรรมชาติรูปร่างประหลาดดูสวยงาม นอกจากนี้ภายในห้องโถงใหญ่ (พระอุโบสถ) ยังประดิษฐานรูปปั้นของหลวงปู่ขาว และกลองโบราณสองหน้า หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “กลองเพล” ก็เลยตั้งชื่อว่า วัดถ้ำกลองเพล

    อนุสรณ์สถานของหลวงปู่ขาว ที่ประกอบด้วย พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว อนาลโย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเพื่อเก็บอัฐิและรวบรวมเครื่องอัฐบริขารของหลวงปู่ขาว เป็นที่สักการบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ขาว ตัวอาคารสร้างขึ้นในรูปทรงของก้อนหินเรียงกัน 3 ก้อน เพื่อให้เข้ากับภูมิประเทศของวัดถ้ำกลองเพล ซึ่งเต็มไปด้วยสวนหิน รอบ ๆ บริเวณตกแต่งด้วยไม้ดอกและสนามหญ้าสีเขียวขจี ภายในพิพิธภัณฑ์มีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ประดิษฐานอยู่ในท่านั่ง ห้องข้างๆ ยังมีเครื่องอัฐบริขารของหลวงปู่ขาวตั้งแสดงไว้ด้วย เจดีย์หลวงปู่ขาว เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเมื่อใช้บรรจุอัฐิหลวงปู่ขาว สร้างอยู่บนลานหินมีบันไดเป็นทางเดินขึ้นไปสู่องค์เจดีย์มณฑปหลวงปู่ขาว เป็นมณฑปจตุรมุขที่หลวงปู่ขาวสร้างไว้ครั้งยังมีชีวิตอยู่เพื่อใช้เป็นที่ประกอบพิธีสังฆกรรม รอบ ๆ บริเวณ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้มากราบไหว้บูชา คนที่ผ่านไปผ่านมาก็มักจะแวะมากราบไหว้ เพื่อความสิริมงคลของชีวิต

จ.เลย

4. อ่างผานาง

ตั้งอยู่ที่ อ่างเก็บน้ำห้วยตาดคา บ้านผานาง ต.ผาอินทร์แปลง อ.เอราวัณ จ.เลย วิว รอบๆ นั้นประกอบไปด้วย ภูเขาที่โอบล้อม เช่นภูถ้ำช้าง ซึ่งภายในจะมีถ้ำเอราวัณ ที่มีชื่อเสียง ซึ่งหากมองไปแล้วสวยงามมาก ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ของจังหวัดเลย ที่ชื่อว่า แพผานาง ในช่วง เข้าสู่ฤดูฝน บรรยากาศรอบแอ่งน้ำ จะเขียวขจี มีนักท่องเที่ยวแห่ล่องแพเป็นจำนวนมาก เพื่อไปพักผ่อน เล่นน้ำคลายร้อน

ค่าบริการ

– ค่าบริการแพ 100 บาท/ชม. นั่งได้ไม่เกิน 15 คน ณ ตอนนี้มีแพไว้คอยบริการ จำนวน 10 แพ และซุ้ม จำนวน 7 หลัง ค่าเช่าเสื้อชูชีพและห่วงยาง อย่างละ 20 บาท

– เปิดบริทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 18.00 น.

สอบถามเพิ่มเติม

– โทร. 082-3027927 ผญ.ถนอม 083-1512690 ผช.สวาท

5. สกายวอล์ค

เชียงคาน หรือ สกายวอล์ค ภูคกงิ้ว ตั้งอยู่ที่ ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย สูงกว่าระดับแม่น้ำโขงกว่า 80 เมตร หรือเทียบเท่ากับตึก 30 ชั้นเลยทีเดียว มีทางเดินที่ทำด้วยกระจกใสยาวกว่า 100 เมตร กว้างกว่า 2 เมตร เป็นจุดที่เสียวและตื่นเต้นที่สุดเลยค่ะ และยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิวได้อย่างเพลิดเพลินด้วย โดยบนสกายวอล์คนั้น จะสามารถมองเห็นแม่น้ำเหือง แม่น้ำที่กั้นชายแดนไทยได้อย่างสวยงดงามไฮไลท์ สำคัญ ก็คือ การได้ชมพระอาทิตย์ตก ในบรรยากาศของธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยภูเขา ที่สวยงามของที่นี่นั่นเอง ใครที่มาในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีหมอกหนาๆ ให้ได้เห็นกันในช่วงเช้าๆ ค่ะ ส่วนในช่วงฤดูฝน พื้นกระจกจะลื่น ควรใช้ความระมัดระวังในการเดินอย่างมากเลย

ค่าบริการ

– เปิดให้เข้าชม: 07.00-18.00 น.

– ค่าเข้าชม : ค่ารถขึ้น-ลง ราคา 20 บาท , รองเท้าสำหรับเข้าสกายวอล์ค 30 บาทต่อคู่

6. ภูลำดวน

     ตั้งอยู่ ในอำเภอปากชม จังหวัดเลย ได้ชื่อว่าเป็น เมืองแห่งทะเลภูเขา เป็นจุดชมวิวที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักสักเท่าไหร่ ไฮไลท์ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของโค้งแม่น้ำโขงโดยมีเกาะแก่งน้อยใหญ่อยู่กลางน้ำ มองเห็นบ้านเรือนของตัวอำเภอปากชม และเห็นบ้านเรือนของพี่น้องชาวลาวทางฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำโขงด้วย พอหันมามองทางซ้ายมือ ก็จะมีบ้านเรือนของบ้านคกไผ่ ในอำเภอปากชม ได้อย่างสวยงาม เลยมีการตั้งชื่อใหม่ให้จุดชมวิวนี้ว่า “ภูลำดวน” ตามชื่อของเจ้าของที่ดินแห่งนี้นั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วที่นี่ก็ได้ใช้เป็นสถานที่ในการจดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์ อีกด้วย เป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาดของ อำเภอปากชม เลย ที่นี่ไม่อนุญาตให้ขับรถยนต์ขึ้นไปเอง เพื่อนๆ จะต้องนั่งรถอีแต๊กของชาวบ้านขึ้นไป

ค่าบริการ

– คนละ 50 บาท และใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่ะ

– สำหรับสายลุย อยากจะเดินเท้าขึ้นมาก็ได้ ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตรเท่านั้น

– เปิดให้เข้าชม : 05.00-18.00 น.

สอบถามเพิ่มเติม

– โทร. 0-4281-2812 ททท.สำนักงานจังหวัดเลย

จ.หนองคาย

7. วัดผาตากเสื้อ

    ตั้งอยู่ ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง วัดแห่งนี้ไม่ได้เป็นแค่สถานที่ปฏิบัติธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความงดงามตามธรรมชาติ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความงามอย่างไม่ขาดสาย ภายในวัดมองเห็นวิวของแม่น้ำโขงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ไฮไลท์ ที่นักท่องเที่ยวสนใจ คือ  Skywalk  ที่มองเห็นแม่น้ำโขงอยู่เบื้องล่างกั้นระหว่างประเทศไทยและลาว เป็นพื้นกระจกที่ยื่นออกมาจากหน้าผา ให้นักท่องเที่ยวได้เดินออกไปสัมผัสกับบรรยากาศบนกระจกใสแบบตื่นเต้น โดยเฉพาะในเวลาเช้าอาจมีโอกาสได้เห็นสายหมอกลอยคลอเคลียอยู่เหนือน้ำโขงอีกด้วย

เวลาเปิด-ปิด

เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.

8. น้ำตกธารทอง

     ตั้งอยู่ ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย  ในสวนรุกขชาติน้ำตกธารทอง เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่เกิดจาก ลำห้วยไซงัว ที่ไหลผ่านลำธารและลานหินที่ค่อยๆ ลดระดับลงมาจนกลายเป็นชั้นน้ำตก รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนชั้นสุดท้ายก่อนสายน้ำจะไหลลงสู่ ลำน้ำโขง มีระยะทางประมาณ 30 เมตร ช่วงเวลาที่สวยที่สุดในการมาเที่ยวชมน้ำตกคือระหว่างเดือนมิถุนายน-เดือนพฤศจิกายน ซึ่งก็ชื่อช่วงฤดูฝนนั้นเองค่ะ เราจะได้เห็นสายน้ำตกไหลไปตามลำธารท่ามกลางป่าเขาเขียวขจี อากาศเย็นสบายและร่มรื่นมากๆ

ค่าบริการ

– ไม่มีค่าใช้จ่าย

– เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.

สอบถามเพิ่มเติม

– โทร. 06-1012-3540

9. ลานพญานาคคู่ แลนด์มาร์คของเมืองหนองคาย 

     ตั้งอยู่หน้าวัดลำดวน เขตเทศบาลเมืองหนองคาย ติดกับตลาดท่าเสด็จ เป็นลานวัฒนธรรมที่ใช้ในงานต่างๆ หากใครที่ไปตัวเมืองหนองคายผ่านริมฝั่งโขงหรือตลาดท่าเสด็จ ช่วงเย็นอย่าลืมแวะลานพญานาค สถานที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ  ออกกำลังกาย ปั่นจักรยานชมบรรยากาศของแสงสีทองในยามเย็น มีร้านอาหาร ร้านขายของ อย่างเช่นเมนู จิ้มจุ่ม หมูกระทะหลายร้าน