5 แหล่งท่องเที่ยว นครหลวงพระบางประเทศลาว
March 31, 2022 by Wow Together Travel
“นครหลวงพระบาง” อีกหนึ่งเมืองมรดกโลก ที่น่าเที่ยวมากๆ ของ ลาว แม้จะเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ บรรยากาศเหมาะกับการมาเดินเที่ยวชิลชมเมือง ชมศิลปวัฒนธรรม ธรรมชาติที่งดงาม วัดวาอาราม แม่น้ำโขง และกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ ถ้าได้มีโอกาสมาเที่ยวนครหลวงพระบาง รับรองจะหลงรักในเสน่ห์ของเมืองเล็กๆ แห่งนี้ เมืองนี้มีอะไรให้เราไปเที่ยวกันบ้าง ตามไปดูกันเลย
![น้ำตกตาดกวางสี](https://wowtogethertravel.com/wp-content/uploads/2022/03/น้ำตกตาดกวางสี-4-600x400.jpg)
1. น้ำตกตาดกวางสี
หรือ น้ำตกกวางสี น้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆน้ำตกและสามารถเลาะข้างน้ำตกไปชมน้ำตกชั้นบนสามารถเล่นน้ำบริเวณลำธารได้ นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกที่ทางเข้าน้ำตก ซึ่งเป็นสินค้าพื้นเมืองที่ทำจากไม้ไผ่เป็นของใช้หลายชนิด และมีร้านอาหารตามสั่งให้บริการอยู่หลายร้าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ นักท่องเที่ยวแถบยุโรปนิยมมาผจญภัยกัน
ค่าบริการ
– เสียค่าเข้าชม คนละ 10,000 กีบ (ประมาณ 40 บาท)
– โดยจะเปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 06.00 – 17.30 น.
![ตลาดมืด](https://wowtogethertravel.com/wp-content/uploads/2022/03/ตลาดมืด-2.jpg)
2. ตลาดมืด
หรือถนนข้าวเหนียว เป็นสีสันยามค่ำคืนของเมืองหลวงพระบาง โดยถนนศรีสว่างวงศ์จะถูกแปรสภาพกลายเป็นตลาดขายของพื้นเมืองที่ชาวบ้านหลวงพระบาง หรือชนกลุ่มน้อยชาวม้ง ต่างพากันนำสินค้างานฝีมือมาวางขาย มีของหลากหลายให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเงิน ผ้าลายพื้นเมือง และของที่ระลึกจากหลวงพระบาง จำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ เมืองหลวงพระบางจนมีคำกล่าวที่ว่า “หากกรุงเทพฯ มีถนนข้าวสาร หลวงพระบางก็มีถนนข้าวเหนียว” เส้นทางการวางสินค้าของตลาดมืดจะเริ่มต้นที่วัดใหม่สุวรรณภูมารามบนถนนศรีสว่างวงศ์สู่ใจกลางเมือง ไปจนสุดพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง (พระราชวังเดิม) ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร สินค้าของที่นี่จะวางเรียงรายคล้ายๆ กัน นักท่องเที่ยวมักมาดื่มด่ำบรรยากาศ สีสัน และวิถีชีวิตแบบหลวงพระบางกันอย่างคึกคัก
เวลาในการเปิด – ปิด
– เวลา 17:00 น. เป็นต้นไป จนกระทั่งถึง 23:00 น.
![พระบรมมหาราชวัง](https://wowtogethertravel.com/wp-content/uploads/2022/03/พระบรมมหาราชวัง1-600x400.jpg)
3. พระบรมมหาราชวัง (พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ)
ปัจจุบันถูกปรับให้เป็นหอพิพิธภัณฑ์หลวง โดยใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงโบราณวัตถุและของมีค่า เช่น บัลลังก์ ธรรมาสน์ เครื่องสูงและราชูปโภคของเจ้าชีวิต พระพุทธรูป และวัตถุโบราณ รวมถึงของขวัญจากประเทศต่างๆหอพิพิธภัณฑ์พระราชวังหรือหอคำ เดิมคือพระราชวังของเจ้ามหาชีวิตสายหลวงพระบาง จึงเรียกอีกชื่อว่า วังเจ้ามหาชีวิต สร้างเมื่อ พ.ศ. 2447 ในสมัยเจ้ามหาชีวิตสว่างวงศ์ สืบทอดต่อมาถึงสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว
จุดท่องเที่ยวสำคัญ
โรงละครพระลักษณ์-พระราม เป็นโรงละครภายในราชวัง อยู่ตรงข้ามหอพระบาง มีการแสดง พระลักษณ์ พระราม ในเวลา 18.00 น. เป็นการแสดงของนักเรียน ซึ่งจัดแสดงช่วงก่อน 11.00 น. และอีกครั้งประมาณ 13.00 น.
หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง ตั้งอยู่กลางเมืองหลวงพระบาง ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส การผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและลาวภายในห้องยังมีฉากลับแลผ้าไหมปักลวดลาย ด้วยฝีมือ ประณีต และงาช้างแกะสลักอีกไม่น้อย ที่เหลือเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ภาพบุคคล บรรณาการจากต่างชาติ และ งานศิลปะมากมายและงานประดับกระเบื้องอยู่รอบๆ ตัวอาคาร
หอพระบาง สถานที่ประดิษฐานพระบาง พระคู่บ้านคู่เมือง จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ “เมืองหลวงพระบาง” อันหมายถึงเมืองที่มี “พระบาง” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานอภัย ทั้งสองพระหัตถ์ หรือปางห้ามสมุทร เป็นศิลปะสมัยขอม มีน้ำหนักประมาณ 54 กิโลกรัม ประกอบด้วยทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์ และในหอพระนี้ยังมีพระพุทธรูปนาคปรก สลักศิลาอีกสี่องค์
ข้อปฏิบัติในการเข้าชมพระราชวังหลวงพระบาง
– ควรแต่งกายสุภาพ ควรใส่กางเกงขายาว เสื้อมีแขน หรือกระโปรงคลุมเข่า
– ถอดรองเท้าก่อนเข้าพิพิธภัณฑ์ และฝากกระเป๋าไว้บริเวณที่ฝากของตรงทางเข้า
– ห้ามถ่ายภาพข้างในพิพิธภัณฑ์
เวลาในการเปิด – ปิดทำการ มีทั้งหมด 2 ช่วง คือ
– ช่วงเช้า 8.00 น. – 11.30 น. ปิดขายบัตรเข้าชมสำหรับภาคเช้าเวลา 11.00 น.
– ช่วงบ่าย 13.30 น. – 16.00 น. ปิดขายบัตรเข้าชมสำหรับภาคบ่ายเวลา 15.30 น.
– การซื้อบัตรเข้าชม อัตราค่าเข้าคนละ 30.000 กีบ สามารถซื้อได้ที่ทางเข้าพระราชวังหลวง
![วัดเชียงทอง](https://wowtogethertravel.com/wp-content/uploads/2022/03/วัดเชียงทอง-600x416.jpg)
4. วัดเชียงทอง
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของแขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของการมาเยือนเมืองมรดกโลก โดยเป็นวัดที่มีความสวยงามอลังการจนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่ง “อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมสกุลช่างล้านช้าง” ที่งดงามที่สุดในดินแดนลาวประวัติของวัดเชียงทอง วัดเชียงทองได้ถูกสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2103 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้ครองอาณาจักรล้านช้างและล้านนา ก่อนที่พระองค์จะย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ วัดนี้จึงถือว่าเป็น “วัดประตูเมือง” ทำให้วัดเชียงทองได้รับการอุปถัมภ์มาโดยตลอดและที่สำคัญยังเป็นวัดเดียวที่ไม่ถูกเผาทำลายในศึกฮ่อธงดำบุกปล้นเมืองหลวงพระบาง ใน พ.ศ. 2428 สิ่งก่อสร้างที่สำคัญ เช่น พระอุโบสถ ซุ้มประตูโขง พระธาตุ หอไหว้น้อย หอไหว้สีกุหลาบ หอไหว้หลังพระอุโบสถ หอกลอง หอราชโกศเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ฯลฯ ยังคงอยู่อย่างครบถ้วน และสมบูรณ์เหมือนเดิมทุกประการ
เวลาในการเปิด – ปิดทำการ
– วัดเชียงทองเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 17.30 น.
จุดท่องเที่ยวสำคัญบริเวณวัด
พระอุโบสถ (ชาวลาวเรียกว่า “สิม”) ของวัดนี้ถือว่าเป็นแบบอย่างของหลวงพระบางอันเก่าแก่ สร้างด้วยการก่ออิฐถือปูน มีโครงสร้างที่ไม่สูงนัก มีความงดงามด้วยสัดส่วนและการประดับตกแต่งต่างๆ อย่างลงตัว จนได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามอลังการมากที่สุด เปรียบประดุจอัญมณีแห่งงานสถาปัตยกรรมของราชอาณาจักรลาวอย่างแท้จริง สิ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษ คือ หลังคาซ้อน 3 ตับ ลักษณะโค้งงอน และลาดต่ำลงมามากถือเป็นแบบฉบับของสิมแบบล้านช้าง ซึ่งชาวลาว เปรียบสิมหลังคาโค้งต่ำอย่างสิมวัดเชียงทอง หรืออีกหลายวัดในหลวงพระบางเป็นสิมสุภาพสตรี ส่วนสิมทรงสูงอย่างวัดทางเวียงจันทน์หรือวัดในเมืองไทยเป็นสิมสุภาพบุรุษ นอกจากนี้เพื่อป้องกันฝนสาดเข้าไปในพระอุโบสถด้วยบนกลางสันหลังคามีการทำ “ช่อฟ้า” รูปเขาพระสุเมรุ และทิวเขาสัตตบริภัณฑ์ที่ล้อมรอบ 7 ชั้น รองรับด้วยปลาอานนท์ อันเป็นรูปแบบการจำลองจักรวาลตามคติทางพุทธศาสนา เช่น เดียวกับที่ปรากฏในจิตรกรรมของล้านนาและอยุธยา ซึ่งหน้าบันของพระอุโบสถ แกะสลักเป็นรูปดอกตาเว็น หรือลายดวงอาทิตย์ ที่ดูคล้ายกับลายดอกจอกของไทย
วิหารน้อย (หรือหอไหว้น้อย) มีหลังคาเป็นรูปใบโพธิ์ตัดครึ่ง อันเป็นรูปแบบของลาวดั้งเดิมซึ่งประดับด้วยกระจกสีงดงามมาก ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทย พระราชทานให้แก่ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
หอไหว้สีกุหลาบ (สีชมพู) เป็นหอไหว้เก่าแก่ที่มีการบูรณะครั้งใหญ่โดย “ท้าวคำม้าว” เมื่อ พ.ศ. 2500 เพื่อเป็นการฉลอง 25 พุทธศตวรรษของพระพุทธศาสนา ประดับด้วยกระจกสีต่างๆ ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วปะติดปะต่อเป็นภาพเล่าเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องราววรรณกรรมชั้นเอกของลาว และเรื่องราวของวิถีชีวิตชาวบ้านทั่วไป
ภายในมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ เนื้อสัมฤทธิ์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2112 ในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช สิ่งที่ทำให้แปลกตา คือ ช่องบรรจุพระพุทธรูปขนาดเล็กจำนวนนับพันองค์บนผนังภายในวิหารหลังนี้ เป็นเรื่องของพระอนันตพระพุทธเจ้า
วิหารหลังใหญ่ หลังพระอุโบสถ เป็นหอไหว้เก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ หอไหว้หลังนี้ประดิษฐานพระม่าน (พระพม่า) ที่ชาวหลวงพระบางนับถือกันมาก เนื่องจากพม่าได้เข้ามามีอิทธิพลในล้านช้างอยู่ระยะหนึ่ง ในช่วงท้ายพุทธศตวรรษที่ 21 ชาวลาวนิยมมาบนบานเพื่อขอบุตรจากพระม่านองค์นี้ นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ที่มีความสวยงามอีกมากมาย เช่น หอกลอง หอราชโกศเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ (โรงเมี้ยนโกศ) สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2505 หลังการสิ้นพระชนม์ของ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ เป็นอาคารที่มีหลังคาสูง ประดับด้วยงานแกะสลักเรื่องรามเกียรติ์ งดงามมาก
หอราชโกศ นี้ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรักษามรดกเก่าแก่ของหลวงพระบาง เช่น ราชรถ ไม้แกะสลักปิดทอง ประดิษฐานพระโกศ 3 องค์ คือ องค์ใหญ่ตรงกลางเป็นของเจ้าศรีสว่างวงศ์ องค์เล็กด้านหลังของพระราชมารดา ส่วนองค์ด้านหน้าเป็นของพระเจ้าอา
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
พระม่านเพี้ยน มาจากคำว่า “พม่า” เนื่องจากพม่าได้สร้างองค์พระจากทองคำเนื้อนพเก้า (ทองเนื้อเก้าคือทองที่สวยและสูงค่าที่สุด )เสร็จแล้วจึงได้นำขึ้นแพล่องแม่น้ำโขงเพื่อนำกลับพม่า แต่พอถึงบริเวณเมืองหลวงพระบาง องค์พระได้หยุดและหมุนวนน้ำ ทำยังไงก็ไม่สามารถดึงแพไปต่อได้ เจ้าอาวาสทุกวัดได้มาอัญเชิญ อุ้มท่านขึ้นจากแม่น้ำโขงแต่ก็ไม่มีวัดไหนสามารถยกขึ้นมาได้ จนกระทั่งเจ้าอาวาส “วัดเชียงทอง” มาตั้งจิตอธิษฐาน และสามารถอุ้มองค์พระขึ้นจากน้ำได้ราวปาฏิหาริย์ จึงได้อัญเชิญเข้าวัดและทำการสมโภชอย่างยิ่งใหญ่
![ถ้ำติ่ง](https://wowtogethertravel.com/wp-content/uploads/2022/03/ถ้ำติ่ง-3-600x447.jpg)
5. ถ้ำปากอู
หรือ ถ้ำติ่งเป็นถ้ำที่ตั้งอยู่กลางภูเขาลูกใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่บนริมแม่น้ำโขง ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบาง ประมาณ 29 กิโลเมตร ฝั่งตรงข้ามบ้านปากอู จุดเชื่อมของแม่น้ำสองสาย คือแม่น้ำโขงและแม่น้ำอู มาบรรจบกัน จึงเป็นที่มาของ ชื่อ “ถ้ำปากอู” แห่งนี้ วิธีการเดินทางคือ ต้องนั่งเรือไปเที่ยวชม ซึ่งสามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าน้ำวัดเชียงทอง เป็นเรือเช่าเหมา ซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์สองฝากฝั่งแม่น้ำโขง
![ภายในถ้ำติ่ง](https://wowtogethertravel.com/wp-content/uploads/2022/03/ถ้ำติ่ง-5-600x400.jpg)