การเดินทางประเทศไทยไปประเทศโปรตุเกส
August 28, 2019 by Wow Together Travel
การเดินทางจากประเทศไทยไปประเทศโปรตุเกส
การเดินทางจากประเทศไทย หรือจากกรุงเทพฯ เพื่อที่จะไปประเทศโปรตุเกส ก็จะมีสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบิน การเดินทางจากกรุงเทพฯไปโปรตุเกส คือ สายการบิน Finnair (AY) ในราคาประหยัด ซึ่งจะมีโปรโมชั่นมานำเสนอเรื่องตั๋วเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปโปรตุเกส และสายการบินอื่นๆ อยู่ตลอดพร้อมบริการหลังการขาย เช่น สายการบิน Turkish Airlines (TK) มีโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินไปโปรตุเกส ซึ่งเช็คการให้บริการหรือโปรโมชั่นทุกครั้งก่อนจองตั๋วออนไลน์
การทำวีซ่า และการยื่น สำหรับประเทศโปรตุเกสนั้น ต้องต้องใช้วีซ่าประเภทกลุ่มเชงเก้น ดังนั้นก่อนอื่นเรามารู้จักวีซ่าเชงเก้นแบบสั้นๆ วีซ่าเชงเก้น เป็นข้อตกลงของหลายประเทศในยุโรป ให้สามารถยื่นครั้งเดียวแล้วเข้าได้หลายๆประเทศที่เค้าตกลงกันปัจจุบันมี 26 ประเทศด้วยกัน นอกจากนี้มีหลายประเทศที่ไม่อยู่ในเขตเชงเก้น แต่ถ้ามีเชงเก้นก็สามารถเข้าได้โดยมีเงื่อนไขพิเศษ เช่น โมนาโกอันดอร์รา โครเอเชีย ซึ่งแต่ละประเทศเค้าจะกำหนดข้อกำหนดพิเศษขึ้นมา เช่น หากต้องการเดินทางไปโมนาโกต้องเข้าผ่านฝรั่งเศสเท่านั้นถึงใช้ได้ทำนองนี้ เห็นไหมว่าแค่เรามีวีซ่าเชงเก้นนี่ ก็แทบจะไปได้ทั่วยุโรปแล้ว จึงทำให้ค่อนข้างเข้มงวดกับการให้วีซ่าพอสมควร
ความสามารถแบบ Single / Multiple หากท่านมีวีซ่าเชงเก้นก็จะสามารถขอ Multiple คือสามารถเข้าออกได้หลายครั้ง โดยไม่เสียเงินเพิ่ม (วีซ่าบางประเทศต้องจ่ายเพิ่ม) โดยจะพิจารณาจากแผนเที่ยวของแต่ละบุคคลว่าสมควรต้องใช้แบบ Multiple หรือไหม
หมายเหตุ :
1. กรณีเดินทางเข้าประเทศในกลุ่ม Schengen ให้ยื่นขอวีซ่ากับประเทศที่มีวัตถุประสงค์หลัก ตามเอกสาร เช่น ไปประชุม
2. กรณีเดินทางเข้าประเทศ และใช้ระยะเวลา ในการพำนักแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ให้ยื่นขอวีซ่า ประเทศที่ พำนักอยู่นานที่สุด
3. กรณีเดินทางเข้าประเทศและใช้ระยะเวลาพำนัก แต่ละประเทศเท่ากัน ให้ยื่นขอวีซ่า ประเทศแรก ที่เดินทางเข้า
*หนังสือเดินทางราชการ กรณีเดินทางเข้าประเทศในกลุ่ม SCHENGEN ที่มีประเทศ ฝรั่งเศส/สเปน ร่วมอยู่ด้วย ให้ยื่นขอตรวจลงตราวีซ่าประเทศ ฝรั่งเศส/สเปน เป็นหลัก
*หนังสือเดินทางทูต และ หนังสือเดินทางราชการ กรณีเดินทางเข้าประเทศในกลุ่ม SCHENGEN ที่มีประเทศต่อไปนี้ร่วมอยู่ด้วย ต้องขอตรวจลงตราวีซ่า ได้แก่ 1. กรีซ (Greece) 2. ไอซ์แลนด์ (Iceland) 3. ลัทเวีย (Latvia) 4. ลิทัวเนีย (Lithuania)5. โปรตุเกส (Portugal)
*หนังสือเดินทางธรรมดา กรณีเดินทางเข้าประเทศในกลุ่ม SCHENGEN ต้องยื่นขอตรวจลงตราวีซ่า
เอกสารที่ต้องเตรียม โดยหลักการแล้ว วีซ่าเชงเก้นแต่ละประเทศจะใกล้เคียงกันมีเพียงรายละเอียดต่างเพียงกันเล็กน้อย โดยท่าน สามารถอ่านรายละเอียดเต็มๆได้ ตามลิ้งด่านล่างนี้ได้เลย
ตรวจสอบเอกสารที่จำเป็นสำหรับยื่นคำร้องขอวีซ่าประเภทท่องเที่ยว >> https://bit.ly/2FIVFwH
ซื้อประกันการเดินทาง >> https://bit.ly/2MPHUO5
เตรียมตัวก่อนยื่นขอวีซ่าเดินทาง
ระยะเวลายื่นวีซ่าล่วงหน้าหน้า การเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ต้องขอวีซ่า นักเดินทางทั้งหลายควรจะเตรียมตัวขอวีซ่าก่อนวันเดินทาง อย่างน้อย 30 วัน เหตุผลเพราะ โดยส่วนใหญ่แล้ว แต่ละสถานทูตจะใช้เวลา พิจารณาวีซ่าอย่างน้อย 15 วันทำการ (ไม่นับเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดต่างๆ) ซึ่งยังไม่รวมถึง
1. เวลาในการเตรียมเอกสารของผู้เดินทาง
2. คิววันเวลาที่ว่างในการยื่นขอวีซ่า
3.กรณีใช้บริการเอเจ้นท์ให้ช่วยกรอกแบบฟอร์ม ก็ต้องเพิ่มจำนวนวันขึ้นไปอีก
ดังนั้น ถ้าหากเราเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เราก็ไม่ต้องมาคอยลุ้นว่าจะได้วีซ่าทันวันเดินทางหรือเปล่า
เตรียมตั๋วเครื่องบิน และที่พัก
ทุกท่านห้ามลืมว่าทางสถานทูตต้องการแค่ใบจองตั๋วเครื่องบิน และใบจองโรงแรมเท่านั้น ไม่ได้ให้เราจ่ายเงินซื้อตั๋วเครื่องบิน หรือจ่ายเงินค่าโรงแรมที่พักเลย เพราะถ้าทางสถานทูตอนุมัติวีซ่าให้ไม่ทัน วันที่เราต้องการเดินทาง หรือปฏิเสธการให้วีซ่ากับเรา เท่ากับว่าเราต้องเสียเงินค่าตั๋วเครื่องบิน และ ค่าโรงแรมไปฟรีๆ ซึ่งทางสถานทูต จะไม่รับผิดชอบ ใดๆทั้งสิ้น เพราะสถานทูตได้แจ้งล่วงหน้าไว้แล้ว
ต้องมีเงินในบัญชีแค่ไหนถึงขอวีซ่าได้
จำนวนเงินในบัญชีที่จะมาใช้ยื่นขอวีซ่า ควรมีให้เพียงพอกับจำนวนวันที่จะไปเที่ยว เช่น จะไปเที่ยวยุโรป 14 วัน แต่มีเงินแสดงในบัญชี แค่หลักพันบาท อย่างนี้มันก็ดูไม่สมเหตุสมผล เพราะถึงจะอ้างว่าแฟนครอบครัว หรือญาติ ออกค่าใช่จ่ายให้ทุกอย่าง แต่ถ้าหากระหว่างนั้น ก็อาจเกิดเปลี่ยนใจกะทันได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่า เอาเงินหลักแสนใส่เข้าบัญชีทีเดียว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเงินเข้าแบบนี้เลย อย่างนี้สถานทูตก็อาจจะสงสัยได้ ยกเว้นแต่ว่าคุณได้รับเงินก้อนนั้นมาช่วงดังกล่าวพอดี และมีหลักฐานมาแสดง เช่น ขายบ้านหรือที่ดินได้ ถูกล็อตเตอรี่ ได้รับโบนัสหรือมรดก เป็นต้น
รูปถ่ายใช้ยื่นวีซ่า
ในปัจจุบันเกือบทุกสถานทูต ต้องการให้รูปถ่าย ที่นำมาใช้ยื่นขอวีซ่านั้น ห้ามใส่แว่นตา ต้องเห็นใบหน้าและหู รวมทั้งคิ้ว ของผู้เดินทางอย่างชัดเจน อีกทั้งรูปถ่ายที่นำมาใช้ยื่นขอวีซ่า จะต้องถ่ายภายใน 3-6 เดือนที่ผ่านมา (ขึ้นอยู่กับประเทศที่ยื่นขอ) และ ห้ามใช้รูปซ้ำ กับรูปที่เคยมีอยู่ใน หนังสือเดินทางแล้ว หรือถ้าเป็นรูปใหม่ ก็ไม่ควรใส่เสื้อซ้ำกับรูปที่เคยใช้แล้ว มิเช่นนั้นจะถือว่า รูปไม่ถูกต้อง ซึ่งทำให้เราต้องเสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน ในการถ่ายรูปใหม่ สามารถอ่านรายละเอียดเต็มๆได้ ตามลิ้งนี้ได้เลย >> https://bit.ly/2J3P3ev
อายุวีซ่าที่จะได้รับ ในส่วนอายุวีซ่า ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละคน และการพิจารณาของสถานทูต บ้างก็ได้เท่ากับ จำนวนวันเดินทางบ้างก็ได้ 30 วัน บ้างก็ 90 วัน หรือ 1 ปี หรือ จนถึงวันที่พาสปอร์ต ของเราหมดอายุ
ระบบไฟฟ้าของโปรตุเกส
กระแสไฟฟ้าของประเทศโปรตุเกสจะต่างจากเมืองไทย ซึ่งกระแสไฟที่ใช้คือ 230 โวลต์ หากคุณนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปด้วยควรจะนำตัวแปลงไฟไปเพื่อความสะดวก แต่ตามโรงแรมและที่พักส่วนใหญ่จะเตรียมอุปกรณ์แปลงไฟไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว เพื่อความสะดวกเช่นกัน
การใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตสำหรับนักท่องเที่ยว
การใช้โทรศัพท์ของประเทศโปรตุเกส จะมีรหัสคือ +351 หากต้องการให้คนที่อยู่เมืองไทยติดต่อมาที่โปรตุเกสจะต้องกดรหัสนี้ก่อน แต่หากคุณจะโทรกลับเมืองไทย ต้องโทรด้วยการใช้บัตรโทรศัพท์ หรือโทรจากโรงแรมที่คุณไปพักก็ได้เช่นกัน อินเทอร์เน็ตการซื้อซิมการ์ดจากโปรตุเกสก็ต้องเลือกแพ็คเก็จให้คุ้มกับการโทรที่สุด หากต้องการใช้อินเทอร์เน็ตทางมือถือ ให้แจ้งไปที่ศูนย์เมืองไทย แล้วเปิดโรมมิ่ง ใช้ Air Plane Mode เพื่อเปิดรับฟรี wifi จะทำให้ประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายไปมาก แต่ถ้าอยากเชื่อต่อตลอดเวลา ต้องซื้ออินเทอร์เน็ต ซิมการ์ด แบบซื้อเป็นซิมแยกแต่ละประเทศ และเลือกแพ็คเก็จดีๆ
การขนส่งสาธารณะในโปรตุเกส
การขนส่งสาธารณะในโปรตุเกสมีการพัฒนาเป็นอย่างดี ในลิสบอนนอกจากนี้ยังมี สถานีรถไฟใต้ดินที่ ลิสบอน และปอร์โต, คุณสามารถซื้อตั๋วเดินทางและตั๋วสำหรับ 1 และ 3 วันในซุ้ม Carris (ลิสบอน) และ stcp (Porto)
1. รถแท็กซี่ ในโปรตุเกสมีการใช้ taximeters (ค่าโดยสารประจำวันในวันธรรมดามีการทำเครื่องหมาย T 1) ในกรณีที่เกินกว่าเขตระยะทางในข้อจำกัดของพวกเขาจะต้องจ่ายเงินต่อกิโลเมตรและกลับไปที่จุดเริ่มต้นของไดรเวอร์
2. รถไฟใต้ดิน วิธีที่สะดวกที่สุดและเร็วที่สุดที่จะเดินทางไปรอบ ๆ ลิสบอนที่เป็นที่สถานีรถไฟใต้ดิน อย่างไรก็ตามการเลือกวิธีการการเคลื่อนที่นี้ละเว้นสถานที่ท่องเที่ยวหลายด้านสถาปัตยกรรมและสถานที่สำคัญ
3. รถรางคันสีเหลืองที่อาจจะองค์ประกอบลักษณะส่วนมากของลิสบอน สามารถนั่งรถราง 28 (Eléctrico 28) ไปยังภูเขาของลิสบอนและ uliczkom ได้